แม้จะเป็นเจ้าผู้ครองตลาดเหนือใครๆในวงการวีดีโอ แพลตฟอร์ม แต่การแข่งขันก็ยังคงมีอยู่เรื่อยๆสำหรับ Youtube ที่เมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งปล่อยฟีเจอร์ ที่เรียกว่า Shorts ซึ่งเเหมือนจะเป็นการประกาศลงชิงพื้นที่ในวงการวีดีโอสั้นกับแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง TikTok
Shorts คืออะไร
ถ้าคุณเปิดเข้าไปในแอปยูทูปตอนนี้ คงจะเป็นฟีเจอร์นี้อยู่บนหน้าหลัก Shorts เป็นเหมือนหารผสมระหว่าง เฟสบู๊ค สตอรี่ กับติ๊กต็อก ซึ่งจะเน้นการอัพโหลดวีดีโอสั้นที่ไม่ต้องผ่านขั้นตอนตัดต่ออะไรมากมาย ซึ่งต่างจากแพลตฟอร์มหลักของยูทูปที่วีดีโอส่วนใหญ่ผ่านการตัดต่อหลายขั้นตอน แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่า Shorts กับ Story คืออันเดียวกันนะ เพราะจุดประสงค์มันคนละแบบกับ, Story ที่เน้นโฟกัสที่เรื่องราวรายวันและหายไปในเวลา 24 ชั่วโมง แต่ Shorts ไม่ได้เป็นแบบนั้น ซึ่งคุณสามารถกดไลค์ ดิสไลค์ คอมเม้นท์และแชร์วีดีโอนั้นได้
การอัพโหลดวีดีโอลงบน Shorts ก็ง่ายๆ แค่กดไปที่ปุ่มเรื่องหมาย + บนหน้าจอยูทูป จากนั้นจะมีฟังชั่นให้คุณเลือกว่าจะอัพโหลดวีดีโอ, ถ่ายทอดสด ครีเอตสตอรี่ หรือครีเอต Shorts แต่ต้องบอกก่อนว่า Shorts ตอนนี้เป็นเพียงเวอร์ชั่นเบต้า ซึ่งจะมีแค่บางภูมิภาคเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ ส่วนในไทยตอนนี้ทำได้แค่ดู แต่ยังไม่สามารถอัพโหลดวีดีโอได้
ทำไม Shorts ถึงเป็นเรื่องใหญ่ อย่างที่เรารู้กันว่า TikTok ตอนนี้โด่งดังแบบฉุดไม่อยู่ ได้รับความนิยมไปทั่วโลก และพฤติกรรมผู้ใช้งานที่ต่างกัน ขณะที่ยูทูป มีวีดีโอหลากหลาย หาง่าย แต่ผู้ใช้ต้องค้นหาวีดีโอเฉพาะที่ตัวเองอยากดู นั่นหมายถึงกลุ่มคนที่เข้ามาในยูทูป คือกลุ่มที่รู้ว่าตัวเองต้องการจะดูอะไร ซึ่งต่างจากบนติ๊กต็อก ที่ผู้ใช้แค่เข้าไปไถๆดูวีดีโออะไรก็ได้ที่โผล่มา ที่เป็นเรื่องใหญ่เพราะว่า เมื่อถึงจุดจุดหนึ่ง ยูทูปอาจกลายเป็นเหมือนวิกิพีเดีย ที่ผู้คนเข้ามาเพื่อดูอะไรบางอย่าง และวีดีโอยาวๆที่บางครั้งก็มีแต่น้ำ ไม่มีเนื้อ ต่างจากวีดีโอสั้นนๆที่ดูจบง่าย ใส่เนื้อหาตรงไม่ยืดยาวให้เสียเวลา และคนที่เข้าดูไม่ได้สนใจว่าจะได้ดูอะไร
โดยเทคโนโลยีของ Denuvo นั้นมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายแพลตฟอร์มด้วยกัน ตั้งแต่ PC ไปจนถึงมือถือ (ทั้งใน Android และ iOS) อิงตามข้อมูลของทาง Irdeto นั้นตัวซอฟต์แวร์ได้ครอบคลุมไปแล้วถึง 2 ร้อยกว่าล้านการติดตั้ง และดูแลเกมส์ไปแล้วถึงพันกว่าเกมส์ด้วยกัน
ซึ่งทางบริษัทนั้นได้กล่าวว่า โดยมีเกมส์จำนวนหนึ่งที่จะปล่อยให้กับเครื่องเล่น PS5 ที่ได้มีการใช้งานโปรแกรมกันโกงไปแล้ว ที่ซึ่งจะช่วยป้องกันทั้งการเล่นแบบออนไลน์ และความคืบหน้าของตัวเกมส์แบบออฟไลน์อีกด้วย ทางบริษัทนั้นได้ยืนยันว่าตัวโปรแกรมนี้จะไม่ไปรบกวนประสิทธิภาพของเกมส์ และการทำงานของผู้พัฒนาแม้แต่น้อย
Twitter เตรียมปล่อยฟีเจอร์ Spaces อาจใช้งานคล้าย Clubhouse
Twitter เพิ่งปล่อยให้ผู้ใช้อัพเดทเวอร์ชั่นล่าสุด และฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ Spaces ที่ทวิตเตอร์บอกว่า จะเป็นที่ที่ให้คุณสามารถสนทนาด้วยเสียงแบบสดๆได้ และผู้ใช้สามารถสร้างห้องแช็ตของตัวเองได้ โดยเวอร์ชั่นอัพเดทนี้ Twitter เป็นการแนะนำฟีเจอร์ใหม่ในชื่อ Spaces ให้ผู้ให้ได้เริ่มตื่นตัว และเตรียมความพร้อม ซึ่งฟีเจอร์นี้คาดว่าจะเปิดตัวจริงๆในเดือนหน้า
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าฟีเจอร์นี้จะทำอะไรได้บ้าง แต่เราก็พอเดาออกว่าไอเดียหลักๆเบื้องหลังฟีเจอร์นี้ตืออารให้ผู้งานสามารถสร้างห้องสนทนาด้วยเสียงแบบสดๆ คล้าย Clubhouse ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ แต่สิ่งที่จะทำให้ทวิตเตอร์ได้เปรียบคู่แข่ง(หากจะลงแข่งกับ Clubhouse จริง) คือการที่ Twitter มีผู้ใช้มากมายทั่วโลกและอยู่ในแพลตฟอร์มทั้ง iOS และ Android ซึ่งการดึงผู้ใช้จากทั้งสองแพล็ตฟอร์มมาอยุ่ในพื้นที่เดียวกันนได้นี่แหละจะเป็นจุดแข็งของทวิตเตอร์
Meyers Leonard นักบาส NBA ประจำทีม Miami Heat ได้ถูกถอดออกจากทีม หลังได้กล่าวศัพท์เหยียด ชาวยิว ขณะทำการสตรีมเกมส์ผ่านช่องทาง Twitch Meyers Leonard นักบาส ประจำทีม Miami Heat ในลีกบาสเกตบอล NBA ได้ถูกถอดออกจากทีม (ชั่วคราว?) เป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ได้โพล่งกล่าวคำศัพท์ที่เป็นไปในเชิงเหยียด ชาวยิว (Anti-Semitic Slur) นอกจากนี้แล้วเขายังถูกสปอนเซอร์ถอนการสนับสนุน เช่นเดียวกับทีมงานที่ทำงานด้วยอย่าง FaZe Clan
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เกิดเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งขณะที่ Meyers ได้ทำการสตรีมเกมส์ Call of Duty: Warzone ผ่านช่องทาง Twitch ส่วนตัวของตนนั้น เขาได้ทำการพลั้งพลาดเอ่ยศัพท์ที่ที่เป็นไปในเชิงเหยียดชาวยิว (Anti-Semitic Slur) ขึ้นมา “F—ing cowards, don’t f—ing snipe me, you f—ing k— bitch,” พร้อมทั้งหัวเราะขณะที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนร่วมเกมส์
ถึงแม้ว่าตัววิดีโอถ่ายทอดสดดังกล่าวจะถูกลบทิ้งไปแล้วนั้น ก็มีผู้ที่สามารถเก็บบันทึกช่วงเวลาดังกล่าวไว้ได้ และได้มีการเผยแพร่ผ่านทาง Youtube ลามต่อไปยัง Twitter อีกด้วย ซึ่งเมื่อเขาได้กลับมาทำการสตรีมในวันต่อมา ก็ได้มีกระแสความไม่พอใจเป็นจำนวนมาจนทำให้มีการเปลี่ยนช่องสนทนาในเวลานั้นเป็น Emote Only แทน ก่อนที่จะมีเสียงโทรศัพท์เข้ามา และได้ตัดการสตรีมดังกล่าวลงไปในที่สุด
ในเวลาต่อมา เหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้มีการแพร่กระจายออกไป และสื่อสำนักต่าง ๆ ของสหรัฐก็ได้มีการเล่นข่าวนี้ด้วย โดยทาง Meyers นั้นได้ทำการออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมา โดยได้กล่าวขอโทษ และอธิบายว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่ทราบความหมายของคำที่พูดออกไป ซึ่งก็ได้กล่าวเพิ่มอีกว่า การกระทำผิดดังกล่าว ที่เกิดจากความดื้อรั้น และความไม่รู้ถึงความหมายนี้ ไม่ใช่ข้ออ้างแต่อย่างใด
แนะนำ : ดูดวงไพ่ยิปซี | รีวิวที่พัก | รีวิวคาเฟ่ | วิธีลดน้ำหนัก | รีวิวอนิเมะ ญี่ปุ่น